รู้หรือไม่ว่าความสนุกสนานอยู่ใกล้คุณแค่เอื้อม ลองคลิกเข้ามาที่ egeszseggyar.com คุณจะได้พบกับกิจกรรมความบันเทิงจากคาสิโนในต่างประเทศ ถ่ายทอดสดครบอรรถรสของความมันส์ ทั้งสล็อตออนไลน์ สล็อต3มิติ สล็อตพีจี บาคาร่าออนไลน์ บาคาร่าสด บาคาร่า3มิติ ไพ่โป๊กเกอร์ ไพ่สลาฟ และเกมอื่นๆอีกมากมาย

อยากสนุกไม่ต้องหาที่ไหนไกล เพียงแค่คุณเข้ามาเล่นคาสิโนออนไลน์ของเรา สนุกสนานกับเกมพนันที่เปิดให้เดิมพันเริ่มต้นเพียงแค่ 1 บาทเท่านั้น สนุกสนานได้มากขึ้น และลุ้นรับเงินรางวัลได้ทุกนาทีที่ลงเดิมพัน เลือกเล่นเกมพนันได้ทุกรูปแบบ แถมยังมีระบบฝากและถอนที่รวดเร็ว รับเงินภายใน 1 นาที

เคล็ดลับสำคัญช่วยให้คุณจัดพอร์ตการลงทุนได้ง่ายขึ้น

การลงทุนมีความเสี่ยง การบริหารจัดการความเสี่ยงจากการลงทุนจึงทำด้วยการกระจายความเสี่ยงด้วยการ ลงทุนในสินทรัพย์และตราสารหลายๆ ประเภท เพื่อให้ผลตอบแทนออกมาไม่หวือหวาจนเกินไป การบริหารความเสี่ยงโดยการกระจายลงทุนในสินทรัพย์และตราสารที่แตกต่างกัน หลายๆ ประเภทนี้ เรียกว่า การจัดพอร์ตการลงทุน ผู้นำแห่งทฤษฎีการจัดพอร์ตการลงทุนในโลกสมัยใหม่คือ แฮรี่ มาร์โควิทซ์ นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายยิว ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 1990 เป็นผู้ค้นพบแนวหน้าของประสิทธิภาพ หรือ Efficient Frontier โดยบอกว่าในตราสารประเภทเดียวกันนั้น ตัวที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือตัวที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ณ ผลตอบแทนที่เท่ากัน หรือตัวที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในบรรดาหลักทรัพย์หรือตราสารที่มีความเสี่ยง เท่ากัน ทีนี้ประเด็นอยู่ที่ว่าผู้ลงทุนแต่ละคนจะเลือกลงทุนอะไร ถ้าผู้ลงทุนกลัวความเสี่ยงมาก (กลัวผลตอบแทนจะผันผวน หรือกลัวสูญเสียเงินต้นบางส่วน) ผู้ลงทุนก็ควรจะลงทุนในพอร์ตที่มีตราสารหนี้และพันธบัตรเป็นสัดส่วนมากหน่อย ผู้ลงทุนที่กล้าก็อาจจะลงทุนในตราสารหรือหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงทั้งหมด ซึ่งการจัดพอร์ตการลงทุนดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นศาสตร์

ในขณะที่มีการจัดพอร์ตอีกลักษณะหนึ่งคือ การจัดให้กระจายความเสี่ยงไปในตราสารหรือหลักทรัพย์ประเภทละเท่าๆ กัน เช่น ค่าความเสี่ยงจากหุ้นทุน 4% และค่าความเสี่ยงจากตราสารหนี้ 4% รวมเป็น 8% ซึ่งจะทำให้ได้พอร์ตที่มีการลงทุนในหุ้นทุน 12.5% และตราสารหนี้และพันธบัตร 87.5% โดยพอร์ตนี้จะมีผลตอบแทนที่คาดหวัง 4.125 ถึง 5% เป็นต้น อย่างไรก็ดีได้ทำการศึกษาโดยใช้ข้อมูลในอดีตแล้วพบว่าในช่วงเวลาใกล้เคียง ปัจจุบัน พอร์ตการลงทุนที่จัดสรรความเสี่ยงให้เท่าๆ กันในหลักทรัพย์แต่ละกลุ่มจะมีผลตอบแทนดี

หากถามว่าพอร์ตที่แนะนำสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากน้อยแตกต่างกัน นั้นจะคำนวณสัดส่วนมาจากไหน ก็ต้องเรียนว่าส่วนนี้เป็น ศิลป์ ที่นำมาผสมกับ ศาสตร์ โดยพยายามเดาใจว่ากลุ่มคนที่อนุรักษนิยม จะไม่ต้องการให้ผลตอบแทนติดลบเลยแม้แต่ปีใดปีหนึ่ง จึงต้องพยายามปรับสัดส่วนให้ดี แม้ในปีที่แย่ก็อาจจะเพียงไม่ได้รับผลตอบแทน หรืออาจจะได้รับพอประมาณ 0.5% และแน่นอนว่าในปีที่ดีก็จะไม่ได้ผลตอบแทนสูงมากนัก แต่โดยเฉลี่ยจะได้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ สำหรับผู้ลงทุนกลุ่มอื่นๆ ที่รับความเสี่ยงได้สูงขึ้น ก็ต้องดูด้วยว่าแนวโน้มในแต่ละปีเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ควรจะมีการลงทุนในทองคำไว้ในพอร์ต แต่ในปีนี้ผู้ที่ไม่ต้องการความเสี่ยงก็ไม่ควรจะลงทุนในทองคำ

Back to top